Wednesday, September 13, 2006

แพร่-น่าน ล่องแก่งน้ำว้า (Part IV)

ที่สุดท้ายที่พาไปเที่ยว คือ พระธาตุช่อแฮ พระธาตุประจำปีขาล บังเอิญเราเกิดปีขาล ไกด์แนะนำว่าให้ซื้อผ้าแพร 3 สี เดินวนขวารอบพระธาตุ 3 รอบ แล้วเอาผ้าแพรพันรอบองค์พระธาตุจำลอง เป็นการบูชาพระธาตุ ไปที่ร้านขายของเขามีแบบ set เล็กใหญ่อีกต่างหาก แถมมีตุ๊กตาที่ไม่ค่อยเป็นเสือ ในฐานะเด็กศิลปากรเลยไม่ค่อยอยากอุดหนุนงานปั้นหยาบๆ ง่ะ ทัวร์เรานอกจากเราแล้วมีพี่เปิ้ลอีกคนที่เกิดปีขาล เลยมี 2 คนถือผ้าแพรวนรอบพระธาตุให้คนอื่นรู้ว่าอีนี่เกิดปีขาลกัน มันยากตอนที่เอาผ้าแพรพันพระธาตุจำลอง เพราะอยู่สูง เอื้อมก็ไม่ถึง แถมต้องพันรอบอีกต่างหาก เหน่งต้องมาช่วยจับผ้าให้ ไม่รู้ว่ากุศลของเราจะถูกแบ่งไปด้วยหรือเปล่า ที่จริงน่าจะอธิษฐานถวายเหน่งไปพร้อมผ้าแพร เผื่อพระธาตุชอบของดำๆ แล้วเหน่งก็เลยต้องยืนคอยช่วยพี่เปิ้ลผูกผ้าอีกคน แล้วก็ดั๊นมาผูกองค์เดียวกัน ทั้งที่พระธาตุจำลองมีทั้ง 4 ทิศ แต่พวกเราเริ่มเดินแล้วมาครบรอบตรงนี้ จะเลยไปอีกเดี๋ยวเป็น 3 รอบครึ่ง ย้อนกลับไปก็เวียนซ้ายผิดหลักการอีก เห็นพี่เปิ้ลถวายชุดใหญ่แล้วก็เลยทักว่านี่เราห่างกัน 12 ปีเชียวเหรอ ต้องรีบทักก่อนกลัวพี่เปิ้ลจะว่า อ้าว พจก็อายุเท่าพี่หรอกเหรอ จะแป่ว..ว

จากนั้นก็ไปเซียมซี จะว่าเซียมซีก็ไม่เชิงเพราะเป็นการควานตัวเลขเอาจากในบาตร วันนี้เสี่ยงรอบ 2 แล้ว ครั้งแรกที่พระธาตุแช่แห้ง ว่าไม่มีโชค เป็นความจะแพ้ เนื้อคู่ไม่มี....แย่มาก เลยทิ้งใบเซียมซีไว้แถวนั้นแหละ งวดนี้ดีกว่านิดนึง ว่าเนื้อคู่ยังไม่เจอ...เฮ้อ ออกมาจากโบสถ์ เขาฮือฮา 12 ไม้วัดกัน ไม้วัดก็เป็นไม้ระแนงอันเล็กๆ เนี่ยแหละ ยาวประมาณ 2.5 เมตร มีทั้งหมด 12 อัน ปลายข้างหนึ่งมียางรัดไว้ ใช้วัดผลคำอธิษฐาน ก็คือ ต้องไปอธิษฐานที่อาศรมพระเจ้าทันใจ (อยู่ติดกัน) พระเจ้าทันใจเป็นพระพุทธรูปองค์หนึ่งประมาณว่าอธิษฐานแล้วเห็นผลทันใจ ไม่เกี่ยวกับ บ. โอสถสภาเต็กเฮงหยูแต่อย่างใด ก่อนอธิษฐานต้องกางแขน 2 ข้างออก วัดความยาวจากปลายนิ้วด้านหนึ่งไปจดปลายนิ้วของแขนอีกข้างหนึ่ง โดยเลื่อนยางรัดมาตรงปลายนิ้วที่วัดได้ หลังอธิษฐานเสร็จก็มาวัดซ้ำ ถ้านิ้วมือเลยยางรัดไป หรือแขนยาวกว่าเดิม แปลว่า อธิษฐานแล้วได้สมหวัง แต่ถ้าปลายนิ้วไม่ถึงยางรัดก็ไม่สมหวัง เรากับหมอปุ้มไปเล่น เอ๊ย อธิษฐานกัน 2 คน นึกตั้งนานว่าจะอธิษฐานอะไร เพราะไม่มีอะไรที่อยากได้เป็นรูปธรรมและทันที ก็เลยมั่วนิ่มอธิษฐานว่าขอให้มีแต่ความสุขตลอดไป (มานึกดูแล้วรู้สึกว่าโง่สุดๆ น่าจะของให้ฉลาดหรือว่ารอยหยักในสมองเพิ่มขึ้น) ไปวัดใหม่อีกครั้งปรากฏว่าเท่าเดิม แสดงว่าให้หาเอาเอง (มั๊ง) ส่วนของยัยหมอปุ้มไม่รู้ขออะไรแต่วัดได้ยาวกว่าเดิม ก็คงสมหวัง หวังว่ามันคงไม่ขอให้เราขึ้นคานเป็นเพื่อนมันนะ พวกจุ๋ยยืนคอยอยู่เห็นเราหน้าบาน 5 กลีบไป เลยพากันแซวว่า ขอให้ได้แฟนแล้วสมหวังล่ะสิ เลยปล่อยให้มันเข้าใจกันไปเอง ส่วนหมอปุ้มก็คงงงว่าวัดแล้วได้เท่าเดิมทำไมระรื่นนัก ตอนที่กลับไปที่รถเดินลงบันไดชัน ปรากฎว่าไกด์ทิพย์ตกบันไดไป 2 – 3 ขั้น ก้นกระแทกเลย แถมปวดประจำเดือน ยัยหมอปุ้มเลยให้ Brufen ไปกิน เลยแซวไกด์ว่าอธิษฐานขอเตะไกด์ตกบันได เห็นผลทันตา

ออกจากวัดก็เริ่มเดินทางกลับ อาหารย่อยพอดี หลับไปได้นิดนึงแทนที่จะหลับยาว ยัยหมอปุ้มมีนอนกรนอย่างน่าหมั่นไส้ ไปแวะกินมื้อเย็นกันที่ร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานครสวรรค์ แล้วก็ซื้อของฝากเป็นขนมโมจิ กลับถึงบ้าน 24.05 น. ส่วนเหน่งนอนค้างกับจุ๋ย แว่วๆ ว่า detail ยา จะมีการถวายตัวกับแพทย์คืนนี้ หึ หึ

No comments: