เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก แป๊บเดียวก็ถึงวันที่พวกเราจะกลับกันแล้ว อ๋อยก็เพิ่งจะได้มาพักผ่อนจริงๆ เอาค่อนวันเมื่อวาน หลังจากเครียดกับงานที่มาทางโทรศัพท์จนฝันร้าย ส่วนเราเรียกได้ว่าพักผ่อนกับกินอย่างเดียวเลย สังหรณ์ใจว่าครั้งนี้คงจะยืดตัวออกอีกมากพอดู
เช้านี้ตกลงกันว่าจะขี่จักรยานเล่นกันรอบๆ หาด จากจักรยานของรีสอร์ท 4 คัน พอมาดูจริงๆ ใช้ได้แค่ 2 คัน อ๋อยเลยสละสิทธิ์นอนต่อ แต่ไม่ลืมกำชับให้พวกเราขี่จักรยานไปหาซื้ออาหารเช้ามาให้ด้วย ถึงแม้ว่าแดดอ่อนๆ ลมเย็นๆ ยามเช้าจะทำให้สดชื่นสักแค่ไหน แต่จักรยานเสือหมอบของรีสอร์ทก็ไม่เอื้อให้ขี่มากนัก เราไปกันแค่สุดทางลาดยาง ก่อนที่จะถึงทางลูกรังก็กลับมาแวะซื้อข้าวที่รีสอร์ทใกล้ๆ และก็ถ่ายรูปกันอย่างกับมาพักที่นั่นซะเอง
แถมตอนจะกลับไปบ้านลอนทรายเราขี่รถแฉลบไปนิดเลยเอาเท้าเบรก เลยทำให้นิ้วโป้งซ้นและเริ่มปวด มาถึงอ๋อยบอกว่ารอจนขับรถไปเที่ยวทางหาดเขากะโหลกที่อยู่ใกล้ๆ มาแล้ว
หลังจากจัดการกับอาหารเช้าที่สั่งข้าวผัดดันได้ผัดกระเพราค่อนข้างเผ็ด (ภาษาท้องถิ่นแถวนั้น) พวกเราก็ออกเดินทางกลับ ไปแวะซื้ออาหารทะเลฝากที่บ้านที่ปากน้ำปราณ ตรงที่เขาเอาพวกปลาหมึกขึ้นตาก มีการคัดขนาดตากตามตะแกรงเป็นแถวๆ ที่ตัวใหญ่หน่อยก็ใช้ไม้หนีบแขวนไว้กับราวลวด แต่ปลาหมึกที่นี่ก็ไม่ถึงกับถูก เมื่อเทียบกับ 3 – 4 ปีที่แล้ว อาจจะเป็นเพราะว่าราคาน้ำมันสูงขึ้นมากก็เป็นได้ จากนั้นพวกเราก็ไปแวะซื้อชีสเชคไส้สัประรดตามข้างทาง และเม็ดขนุนเผือกที่อ๋อยโปรโมตว่าอร่อยนักหนา (แต่ก็อร่อยจริงๆ) ที่หัวหิน แวะกินปูนึ่ง (อีกแล้ว) แถวสะพานปลาชะอำ อ๋อยให้โอกาสหอยเชลล์แก้ตัวด้วยการสั่งอบเนยมาอีกครั้ง คราวนี้ดีกว่าเมื่อวาน ส่วนปูดีมั่กๆ ทำเอาปลาเก๋านึ่งซีอิ๊วเป็นม่าย ต้องห่อกลับ เพราะปูกับหอยนี่มากันเป็นกิโล แถมหมอปุ้มยังสั่งปูนึ่งกลับบ้านอีกหลายกิโลอยู่
แล้วก็ถึงจุดหมายจริงๆ ที่คิดจะมาเที่ยวครั้งนี้คือ พรีเมียมเอ๊าท์เลต แต่มาถึงนี่เราก็ปวดนิ้วเท้ามากจนเดินแทบไม่ไหวแล้ว ต้องปล่อยให้เพื่อนๆ เดินช้อปปิ้งกันตามสบาย ส่วนตัวเองเดินโขยกเขยกไปซื้อเฉพาะของที่ตั้งเป้าไว้ คือ ที่หุ้มพวงมาลัยรถ ตุ๊กตาของขวัญ แล้วก็ยังได้เสื้อกับรองเท้า ตอนที่แวะรายทางขากลับไปที่รถอีก (ถึงเดี้ยงแต่ยังช้อปขาดใจ) ขึ้นรถได้งวดนี้ก็นั่งยาวจนถึงบ้าน อ๋อยแวะส่งหมอปุ้มที่บ้าน แล้วก็แวะมาส่งเรา ที่ตัดสินใจไป รพ. ต่อ เพราะตอนนี้นิ้วหัวแม่เท้าเริ่มบวมตุ่ยแล้ว เผื่อนิ้วหักจะได้ถือโอกาสหยุดงานต่อไป แต่ก็ไม่ยักกะหัก (แหม่..) ถึงบ้านจริงๆ 18.30 น.
เช้านี้ตกลงกันว่าจะขี่จักรยานเล่นกันรอบๆ หาด จากจักรยานของรีสอร์ท 4 คัน พอมาดูจริงๆ ใช้ได้แค่ 2 คัน อ๋อยเลยสละสิทธิ์นอนต่อ แต่ไม่ลืมกำชับให้พวกเราขี่จักรยานไปหาซื้ออาหารเช้ามาให้ด้วย ถึงแม้ว่าแดดอ่อนๆ ลมเย็นๆ ยามเช้าจะทำให้สดชื่นสักแค่ไหน แต่จักรยานเสือหมอบของรีสอร์ทก็ไม่เอื้อให้ขี่มากนัก เราไปกันแค่สุดทางลาดยาง ก่อนที่จะถึงทางลูกรังก็กลับมาแวะซื้อข้าวที่รีสอร์ทใกล้ๆ และก็ถ่ายรูปกันอย่างกับมาพักที่นั่นซะเอง
แถมตอนจะกลับไปบ้านลอนทรายเราขี่รถแฉลบไปนิดเลยเอาเท้าเบรก เลยทำให้นิ้วโป้งซ้นและเริ่มปวด มาถึงอ๋อยบอกว่ารอจนขับรถไปเที่ยวทางหาดเขากะโหลกที่อยู่ใกล้ๆ มาแล้ว
หลังจากจัดการกับอาหารเช้าที่สั่งข้าวผัดดันได้ผัดกระเพราค่อนข้างเผ็ด (ภาษาท้องถิ่นแถวนั้น) พวกเราก็ออกเดินทางกลับ ไปแวะซื้ออาหารทะเลฝากที่บ้านที่ปากน้ำปราณ ตรงที่เขาเอาพวกปลาหมึกขึ้นตาก มีการคัดขนาดตากตามตะแกรงเป็นแถวๆ ที่ตัวใหญ่หน่อยก็ใช้ไม้หนีบแขวนไว้กับราวลวด แต่ปลาหมึกที่นี่ก็ไม่ถึงกับถูก เมื่อเทียบกับ 3 – 4 ปีที่แล้ว อาจจะเป็นเพราะว่าราคาน้ำมันสูงขึ้นมากก็เป็นได้ จากนั้นพวกเราก็ไปแวะซื้อชีสเชคไส้สัประรดตามข้างทาง และเม็ดขนุนเผือกที่อ๋อยโปรโมตว่าอร่อยนักหนา (แต่ก็อร่อยจริงๆ) ที่หัวหิน แวะกินปูนึ่ง (อีกแล้ว) แถวสะพานปลาชะอำ อ๋อยให้โอกาสหอยเชลล์แก้ตัวด้วยการสั่งอบเนยมาอีกครั้ง คราวนี้ดีกว่าเมื่อวาน ส่วนปูดีมั่กๆ ทำเอาปลาเก๋านึ่งซีอิ๊วเป็นม่าย ต้องห่อกลับ เพราะปูกับหอยนี่มากันเป็นกิโล แถมหมอปุ้มยังสั่งปูนึ่งกลับบ้านอีกหลายกิโลอยู่
แล้วก็ถึงจุดหมายจริงๆ ที่คิดจะมาเที่ยวครั้งนี้คือ พรีเมียมเอ๊าท์เลต แต่มาถึงนี่เราก็ปวดนิ้วเท้ามากจนเดินแทบไม่ไหวแล้ว ต้องปล่อยให้เพื่อนๆ เดินช้อปปิ้งกันตามสบาย ส่วนตัวเองเดินโขยกเขยกไปซื้อเฉพาะของที่ตั้งเป้าไว้ คือ ที่หุ้มพวงมาลัยรถ ตุ๊กตาของขวัญ แล้วก็ยังได้เสื้อกับรองเท้า ตอนที่แวะรายทางขากลับไปที่รถอีก (ถึงเดี้ยงแต่ยังช้อปขาดใจ) ขึ้นรถได้งวดนี้ก็นั่งยาวจนถึงบ้าน อ๋อยแวะส่งหมอปุ้มที่บ้าน แล้วก็แวะมาส่งเรา ที่ตัดสินใจไป รพ. ต่อ เพราะตอนนี้นิ้วหัวแม่เท้าเริ่มบวมตุ่ยแล้ว เผื่อนิ้วหักจะได้ถือโอกาสหยุดงานต่อไป แต่ก็ไม่ยักกะหัก (แหม่..) ถึงบ้านจริงๆ 18.30 น.