Friday, March 30, 2007

บ้านลอนทราย (Part III)

เข็ดกับอาหารเผ็ดสุดยอดเมื่อวานและอ๋อยอยากกินปาท่องโก๋ร้อนๆ พวกเราก็เลยพากันไปที่ตลาดปากน้ำปราณ เจอปาท่องโก๋เจ้าแรกก็อร่อยแล้วกับความกรอบนอกนุ่มใน ที่อ๋อยกินคนเดียว 10 อัน!! หลังจากนั้นเราก็ไปสั่งโจ๊กหมู ใส่ตับ ไข่ต้มกับผักคะน้า รสชาติประหลาด อาจจะเป็นเพราะว่าเราไม่ได้กินโจ๊กมาเป็นปีๆ แล้ว แถมเห็นเด็กๆ ในห้องยากินทีไรเป็นต้องถามว่า “ไปเอาอ้วกใครมากินอ่ะ” ก็เลยต้องฝืนใจกินอ้วก เอ๊ย โจ๊กกับปาท่องโก๋เป็นเพื่อนอ๋อยไปพลางๆ

หลังจากนั้นเราก็กะจะไปแวะวนอุทยานปราณบุรีที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อล่องเรือชมปากน้ำปราณกันก่อนจะไปรับหมอปุ้มตอนเที่ยง ปรากฏว่าป้ายที่บอกว่าวนอุทยานปราณบุรี 7.2 ก.ม. ใกล้ๆ ปากน้ำปราณนั้น มันดันเป็นทางลูกรังขึ่นเขาที่ชันมากๆ และดูจะไกลโข จนอ๋อยบอกว่าไว้ขับโฟร์วิลมาแล้วค่อยไปกัน พวกเราเลยต้องถอยทัพเพื่อออกไปทางอื่นแล้วก็พากันหลงออกไปถึงตลาดปราณบุรี ....ถือซะว่ามาดูลาดเลากันล่วงหน้าว่าหมอปุ้มจะลงรถตรงไหน

ออกจากแยกตลาดปราณบุรีก็วิ่งรถย้อนมาทางหัวหินมาถึงสี่แยกต่อมาที่เป็นแยกที่ว่าการอำเภอปราณบุรี ที่พวกเรามาถึงกันในวันแรก เรานึกขึ้นได้ว่าขามามองเห็นว่ามีป้ายรับพาล่องเรือปากน้ำปราณ เลยชวนอ๋อยเข้าไปดูกัน เจอคุณลุงเจ้าของอยู่พอดี ที่นี่ทำเป็นแบบโฮมสเตย์ มีที่พัก พาล่องเรือ และพาชมสวนผลไม้ รวมถึงไร่สับปะรดไร่แรกของปราณบุรี สอบถามราคาค่าล่องเรือแล้วต่างจากที่สอบถามจากรีสอร์ทมาก โดยที่นี่อยู่ในราคาลำละ 600 บาท แต่ถ้าพวกเราไปล่องเรือข้างในวนอุทยานปราณบุรีจะเสียลำละ 300 บาท ยังไงก็ตามอ๋อยเริ่มติดใจคารมคุณลุงที่ชวนคุยเรื่องการท่องเที่ยว การเกษตรเชิงนิเวศน์ แล้วก็พาไปดูปลาแรด ปลาตะเพียนตัวใหญ่ๆ ในลำน้ำปราณที่โฮมสเตย์ของแก (ส่วนเราไม่ค่อยรู้เรื่องระบบนิเวศน์เท่าไหร่ แค่เห็นสัตว์น้ำก็เริ่มหิว ยิ่งลุงแกบอกว่ามีกวางมาเดินป้วนเปี้ยนในสวนแกก็ยิ่งหิว) แต่หลังจากที่คิดได้ว่าแพงเลยจำเป็นต้องรอหมอปุ้มมาเป็นตัวหารเพิ่ม และตามที่คุณลุงบอกว่าถ้าล่องเรือเวลาที่น้ำลงแล้วจะได้เห็นปูก้ามดาบเต็มตลิ่งพรืดไปหมด ซึ่งต้องรอประมาณบ่าย 3 โมงค่อยไปกัน เลยบอกลุงว่าบ่ายๆ จะเข้ามาอีกครั้ง

กลับมาที่บ้านลอนทรายอีกครั้ง โชคดีมากๆ เพราะเราทำท่าจะท้องเสียอีกแล้ว (หลังจากกระหน่ำกินอาหารทะเลเข้าไป) และช่วงนี้รู้สึกว่าถ้าท้องเสียทีไร น้ำหนักจะขึ้นทุกครั้ง เหมือนเด็กกำลังยืดตัว (แต่เรายืดออกทางด้านข้าง) รอหมอปุ้มจน 11 โมง อ๋อยเริ่มหมดแรงโจ๊ก เลยให้โอกาสรีสอร์ททำอาหารจานเดียวมาให้กิน คราวนี้ใช้ได้ อ๋อยชมว่าข้าวผัดกำลังดี ไม่แข็งเกินไป จากนั้น 12.30 ถึงได้ไปรับหมอปุ้ม คราวนี้เจ้าของรีสอร์ทเอารถออกไปรับลูกค้า เลยได้โอกาสขับตามไปตามทางที่ดีกว่าทางที่พวกเรามาตั้งเยอะ ถึงกระนั้นอ๋อยก็ยังขับตกหลุมจนกระทะล้อข้างซ้ายหน้าหลุดหายไป ซึ่งตอนนั้นพวกเราไม่ได้รู้ตัวเลยซักนิด มารู้อีกครั้งก็ไปแวะรับหมอปุ้มและพากันไปถึงวนอุทยานปราณบุรี ที่คุณลุงเจ้าของโฮมสเตย์บอกว่าให้ไปเข้าทางแยกเขาเต่า (คราวนี้เป็นทางลาดยางอย่างดีไม่ต้องขึ้นเขา) ถึงเส้นทางจะวนเวียนและป้ายเก่า รวมถึงมีเถาต้นไม้พันบังจนมองแทบไม่เห็น (มีอยู่ป้ายนึงทำให้ขับรถวนตั้ง 2 รอบ เนวิเกเตอร์อย่างเราเลยหงุดหงิด ลงไปโค่นป้าย เอ๊ย ดึงต้นไม้ออกซะ) พวกเราก็ไปถึงวนอุทยานปราณบุรีกันจนได้ โดยไม่ต้องขึ้นเขา

No comments: