Tuesday, December 12, 2006

Queenstown (7 ธ.ค.49)

วันนี้ยังกินไข่ต้มกันเหมือนเดิม และที่แปลกใหม่? คือมาม่า ที่ต้มรอจุ๋ยอาบน้ำไม่เสร็จซะทีจนอืดไปหมด เส้นทางวันนี้คือ Te Anau --- Mossburn --- Kingston --- Queenstown ซึ่งยังผ่านทุ่งน้องแกะอยู่ แวะดูรถจักรไอน้ำที่ Kingston แล้วก็ขับรถเลียบทะเลสาบ Wakatipu ที่ยาวไปตามถนนตลอดแนว ถึง Queenstown ตอนเที่ยง ไปแวะ i-site เจ้าเก่า ได้ที่เที่ยวตอนเย็นเป็น skyline gondola กระเช้าลอยฟ้า จากนั้นก็ไปยืนยันการจอง shotover jet เจอร้านอาหารไทยที่คนเสริฟคนไทย (ได้คุยกับคนอื่นเป็นภาษาไทยซะที) แถมยังเปิดเพลงเสกโลโซซะด้วย (ชักคิดถึงบ้าน) เมือง Queenstown อยู่บนเขา ที่จอดรถก็น้อย หลังจากที่เราวนรถหาที่พักจนเจอ ก็เลยตัดสินใจจอดรถไว้แล้วค่อยเดินเข้าเมืองกันแทนที่พักคืนนี้ Wakatipu apartment ห้องนึงมี 2 ชั้น เป็นงวดแรกที่จุ๋ยจะได้ครองชั้นบนคนเดียว แถมเป็นห้องประมาณใต้หลังคาที่กว้างขวางเอาการ สลับกับ 2 สาวที่เตียงอยู่ติดประตูทางเข้า ไว้คอยนอนกันคนเข้าหาจุ๋ย เสียเวลาเรื่องที่พักนิดหน่อยเพราะไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่ กว่าจะโทรไปถามแล้วรู้ว่าเขาเสียบกุญแจไว้ที่ห้องพักก็กินเวลาไปเยอะ ทำให้ต้องรีบเดินเข้าเมืองเพื่อไปขึ้นรถไปเล่น shotoverjet ยัยหมอปุ้มอัด dimen เข้าไปเต็มที่เพราะกลัวจะเมาเรือด่วน แต่เอาเข้าจริงกลับสนุกกับการซิ่งฉวัดเฉวียน และหมุนควง 360 องศา ขากลับเก็บรูปที่ระลึกกลับมา ส่วนพ่อหนุ่มขาช้อปก็ได้หมวกอันใหม่สีแดงแปร๊ด มาใส่บังหัวล้านแทนหมวกพอสซั่มกลับมาเดินเที่ยวในเมืองรอเวลาขึ้น gondola โดยไปแวะร้านของฝากที่มีทั้งครีมรกแกะ ช็อกโกแลต พวงกุญแจ ตุ๊กตา ฯลฯ เราไปเล็งๆ ครีมรกแกะไว้ให้แม่โดยตกลงจะแบ่งกะหมอปุ้มคนละ 3 กระปุกจุ๋ยชวนไปกินอาหารตุรกีเป็น Kebab ที่หน้าตาเหมือนกุ้งพัฟ KFC มีแป้งหนาๆ ห่อเนื้อสัตว์ที่ย่างแล้วหั่นเป็นชิ้นบางๆ เราเลือกกินเนื้อแกะแบบเผ็ด ขนาดเลือกอันเล็กยังกินกันไม่หมด แล้วก็ได้เวลาเดินไปขึ้น gondola ที่เป็นกระเช้าใสและค่อนข้างสูงไปสู่ยอดเขา Bob’s peak ทำเอาจุ๋ยที่กลัวความสูงไม่กล้ามองลงข้างล่าง (แต่ยังถ่ายรูปกันในกระเช้าอย่างรื่นเริง) สถานี gondola ด้านบนเป็นร้านขายของและร้านอาหาร มีห้องโชว์ชาวเมารีที่พวกเราซื้อทัวร์มาดูอยู่อีกด้านหนึ่ง มองเห็นจุดกระโดดบันจี้จัมพ์อยู่ใกล้ๆ เสียดายที่ไม่ได้เล่นเลื่อน luge เป็นเลื่อนท้องแบน 3 ล้อ ผ่านถนนคดเคี้ยวเส้นเล็ก รอบๆ เขา เพราะคะยั้นคะยอจุ๋ยเท่าไหร่มันก็ไม่เอา คงรู้ว่าต้องขึ้นกระเช้าห้อยขา (ที่เสียวกว่า gondola) ขึ้นไปอีกทอดหนึ่งเพื่อขับ luge ลงมาตามทางลาดเอียง ระหว่างรอรอบโชว์ก็เอาบัตรโทรศัพท์ pin phone ซื้อที่ร้าน kebab มาลองโทร ปรากฏว่าโทรไม่ได้ มารู้ทีหลังว่ากดรหัสผิด มาได้โทรอีกทีตอน 4 ทุ่มรู้สึกแม่จะดีใจมาก ถึงจะ e-mail ฝากให้ปริญโทรไปหาแม่เป็นระยะแล้วก็เถอะโชว์เมารี หรือ kiwi haka เป็นโชว์ที่เอะอะมาก ทั้งดนตรีและคนเต้น ที่แต่งหน้าเหมือนนักรบโบราณพร้อมกับแลบลิ้นปลิ้นตา คนดูมีไม่ถึง 10 คน เขาก็เลยเชิญให้พวกผู้หญิงออกไปร่วมแสดงด้วยโดยให้ลูก point ที่ลักษณะคล้ายลูกประคบ แต่มีเชือกผูกออกมายาว ใช้หมุนเหวี่ยงไปมา ขึ้นลง ตามที่เขาบอก เราทำไม่ค่อยได้แต่ก็สนุกดี พอถึงตาพวกผู้ชายบ้าง ปรากฎว่าจุ๋ยต้องออกไปเต้น กระทืบเท้า แล้วก็แลบลิ้น เราหัวเราะจนท้องแข็งกว่าจะถ่ายรูปได้ ขากลับแวะซื้อครีมรกแกะที่เล็งไว้ แล้วก็ซื้อ KFC กินกันรอบดึก

No comments: