รถ 2 แถวพาพวกเราไปยังท่าเรือแหลมศอกท่ามกลางความมืดสนิท ครึ่งชั่วโมงก็ไปถึงอาคารพักที่มีกาแฟ โอวัลติน สำหรับชงเองไว้รับรอง หลังจากนั้นก็มีคนทยอยกันมาเรื่อยๆ แต่หลังจากพวกเราอิ่มท้องและเข้าห้องน้ำกันเรียบร้อยแล้ว ก็ไม่สนใจใครอีก พากันถ่ายรูปอย่างเมามัน จนเกือบ 6 โมงเช้าจึงได้ลงเรือไปยังเกาะกูด

กลับมาถึงรีสอร์ทก็มีฝนตกลงมานิดหน่อยพอให้คลายร้อน เพราะตอนกลางวันแอร์ในบ้านจะไม่ทำงาน พวกเราคงจะใช้พลังงานกันมากเกินไปหน่อย พอได้เวลาอาหารเย็นก็ลงไปนั่งโต๊ะก่อนกลุ่มอื่นๆ และพลอยได้อาหารมาเสริฟก่อนคนอื่นๆ ไปด้วย จากอาหารเช้าและอาหารกลางวันที่เป็นแบบบุฟเฟ่ต์บริการตนเองและเติมไม่อั้น มาถึงตอนเย็นจะเป็นบาบีคิวอาหารทะเลย่าง หมูย่าง เนื้อย่าง ปูนึ่ง ปลาทอด แกงส้มและทอดมัน ที่จริงก็เติมไม่อั้น แต่พวกเรากินกันแค่นี้ก็อิ่มแทบแย่ ทำเอาเราต้องพักเป้าหมายไดเอ็ทไว้ก่อน
เรือ speed boat พาพวกเรามาถึงเกาะกูดภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง แค่ได้เห็นบรรยากาศของที่พักคือ กัปตันฮุก รีสอร์ท พวกเราก็พากันถ่ายรูปกันอีกเป็นนานทั้งที่ยังไม่ได้รับกุญแจเข้าบ้านพัก และกินข้าวเช้าอย่างกลุ่มอื่นเขา
บ้านหลังที่พวกเราอยู่ ต้องเดินขึ้นเนินค่อนข้างชันขึ้นไปจากห้องอาหาร เป็นห้องแอร์ มีที่นอนสำหรับ 4 คน และ เตียงเสริมเป็นผ้าปูบนแผ่นกระดานตรงกลางอีก 1 ที่ ทำให้เราที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้จัดการทริป (ได้ไงก็ไม่รู้...ซวย) ลำบากใจพอสมควรว่าจะให้เกียรติใครนอนที่นอนเสริมดี เลยต้องตัดสินด้วยการจับไม้สั้นไม้ยาว และคนที่จับได้คือ.......อ๋อย
บ้านหลังข้างๆ เป็นบ้าน VIP ที่ราคาแพงกว่าบ้านเราหัวละ 700 บาท แต่มีกาต้มน้ำพร้อมชา กาแฟสำเร็จรูปให้ และมีอ่างอาบน้ำกลางแจ้งที่เป็นถังน้ำทำด้วยไม้คล้ายถังเบียร์ ให้จุ๋ยได้ลงไปถอดเสื้อถ่ายรูป (ตามคำสั่งของตากล้อง - เราเอง ) อย่างสนุกสนาน (แต่เอ๋ไม่ยักยอมทำบ้าง)

หลังกินข้าวเที่ยงก็มีเรือ speed boat พาพวกเราไปดำน้ำดูปะการังที่เกาะยักษ์ กับเกาะทองหลาง โดยอ๋อยยื่นคำขาดว่าจะไม่ยอมลงน้ำ เลยได้รับหน้าที่เป็นตากล้องแทน ถึงแม้คลื่นจะไม่ค่อยแรงแต่ก็มีคนเมาเรือหลายคนรวมทั้งพี่ยี้ ส่วนอ๋อยที่ออกตัวแต่แรกว่าเมาเรือแน่นอน พอได้ dimen ก็ไม่ออกอาการอยากเลี้ยงอาหารฝูงปลาให้เห็นเหมือนกับคนอื่นๆ การดำน้ำงวดนี้สงสัยจะมีแต่เราคนเดียวที่สนุกสุดๆ เพราะว่ายน้ำไปรอบเกาะจนเหนื่อย แต่ก็คุ้มที่ได้เห็นปลาฝูงใหญ่ หอยเม่น หอยมือเสือตัวใหญ่ที่สุดเท่าที่ดำน้ำดูมา (น่ากินทั้งนั้น) แล้วก็ปะการังที่สีสันสดใสและค่อนข้างสมบูรณ์ ให้ดำน้ำทั้งวันก็ยังไหวเลยนะเนี่ย แต่คนอื่นดูท่าจะไม่ไหว (ตามอายุ) พี่ยี้ก็ให้อาหารปลาในน้ำ 2 - 3 รอบ จุ๋ยที่คอยดูแลอยู่ไม่รู้จะอยากให้อาหารเหมือนกันหรือเปล่า ส่วนเอ๋ปล่อยให้น้ำพัดไปเรื่อยๆ อย่างไม่รู้ชะตากรรม จนสต๊าฟต้องตามไปลากกลับเรือ และอ๋อยที่อยู่บนเรือก็ดูคนลอยตุ๊บป่องอยู่ในน้ำจนตาลาย ไม่รู้ว่าเพื่อนแต่ละคนลอยกระจายไปถึงไหนกันบ้าง
จากนั้นสต๊าฟก็มาชวนให้ไปชมการแสดงไฟประกอบดนตรีเร้าใจ พวกเราที่ไปถึงเป็นกลุ่มแรก (เพราะกินก่อน อิ่มก่อน) ก็พากันจับจองที่นั่ง แถวหน้า (มีแถวเดียว) คนที่มาทีหลังต้องยืนดู หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไปนอนเอาแรงไว้วันต่อไป โดยที่อ๋อยยังไม่วายโดนแซวก่อนนอน ว่านอนแล้วพุงยังสูงกว่าฟูกอีก
No comments:
Post a Comment